Lorem ipsum dolor sit amet, pri et feugiat consulatu. Eu per ceteros platonem. Ea dictas legendos ius. At adhuc solum has. Nec at harum euripidis, habeo elitr patrioque ne mel. Mei probo oportere posidonium in, has ei everti volutpat consequat.

ยกกระชับผิวหน้า เต่งตึงโดยไม่ต้องผ่าตัด (Face-lift)

ในสังคมปัจจุบันการมีใบหน้าที่ดูดี หล่อ สวย เหมือนช่วงวัยรุ่น เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาอยากจะดูเด็กอยู่ตลอดเวลา ซึ่งใบหน้าก็มีการเปลี่ยนแปลงได้ตามอายุ ตอนเด็กใบหน้าก็ดูสดใส เอิบอิ่ม ไม่มีริ้วรอย ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ดูมีคอลลาเจนในชั้นผิวที่เต็มประสิทธิภาพ มีผิวหน้าที่ดูยืดหยุ่น กระชับ และชุ่มชื้น แต่ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง ควัน มลพิษต่าง ๆ รวมไปถึงแสงแดด ที่เป็นตัวการที่จะทำลายผิวของเราให้เสื่อมสภาพลง ทำให้เริ่มมีริ้วร้อย ผิวแห้ง ขาดความกระชับ มีความหย่อนคล้อย หมองคล้ำ ทำให้กลายเป็นปัญหาผิวที่เสียสะสมไปเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการดูแลตั้งแต่แรกเริ่ม และเมื่อมีอายุที่มากขึ้น ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยย่นหน้าผาก ผิวหนังเริ่มเหี่ยวแห้ง แต่เมื่อเราอยู่ในช่วงที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำ ทันสมัย ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีการคิดค้นนวัตกรรมยกกระชับผิวหน้า ที่มีคุณสมบัติในการยกกระชับผิวหน้า ให้เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ เสมือนผิวเด็กวัยรุ่นแรกเริ่มอีกครั้ง โดย Aesthe Clinic ได้มีการคัดสรรคุณภาพในการเลือกใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่เห็นผลลัพธ์ในการรักษาได้ชัดเจน พร้อมทั้งการผสมผสานเทคนิคและขั้นตอนการรักษาจากคุณหมอที่มีประสบการณ์ทางด้านศัลยกรรมและความงามมากกว่า 10 ปี เพื่อให้คุณได้มั่นใจในการทำว่า ผิวหน้าของคุณจะกลับมากระชับ เต่งตึง ผิวเด็กลงอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด ให้คุณมีความสุขกับใบหน้าที่ดูเด็กอีกครั้ง

Aesthe Clinic มีเทคโนโลยี

ยกกระชับผิวหน้า ที่ได้มาตรฐาน

ให้เลือก 2 เทคโนโลยี ด้วยกัน

ยกกระชับผิวหน้าด้วย ไฮฟู (HIFU-Highly Intense Focused Ultrasound)

ไฮฟู่ (High Intensity Focus Ultrasound – HIFU ) คืออะไร?
คำกำจัดความ (High Intensity Focus Ultrasound – HIFU ) คือ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าโดยอาศัยเทคโนโลยี Focused Ultrasound ที่สามารถปล่อยพลังงานในการกระตุ้นเซลล์ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานประมาณ 1-2 ปี โดยไม่มีแผล

ขั้นตอนการทำ HIFU
1.ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำแล้วเช็ดให้แห้ง
2.ทาเจล Ultrasound เพื่อทำให้พลังงานถูกส่งลงไปใต้ผิวหนัง
3.เริ่มทำทรีทเมนท์ โดยจะเริ่มทำทีละส่วนขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
4.เช็ดเจลออก ทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดด
5.การรักษาแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-90 นาที ขึ้นกับบริเวณที่ทำการรักษา ผู้ได้รับการรักษาจะรู้สึกอุ่นๆ ที่ใต้ชั้นผิว แสดงได้ถึงพลังงานขนาดเล็กๆที่เครื่องส่งผ่านลงไปลึกถึงชั้น SMAS อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าได้มีการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้นแล้ว ภายหลังการรักษาผู้ได้รับการรักษาสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีการพักฟื้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ลักษณะผิวหนังแดง (ผื่นแดง) บริเวณที่รักษาอาจมีลักษณะผิวหนังแดงชัดเจนทันทีหลังการรักษาแต่จะหายภายในสองสามชั่วโมงหลังการรักษา
อาการบวมน้ำ (การบวม) บริเวณที่รักษาอาจมีลักษณะบวมน้ำเล็กน้อยชัดเจนทันทีหลังการรักษา แต่จะหายภายใน 3 ถึง 72 ชั่วโมงหลังการรักษา
รอยยาวบนผิวหนัง บริเวณที่รักษาอาจมีรอยบวมแดงเป็นเส้นตรงที่สามารถมองเห็นได้หลังการรักษาโดยจะหายภายในหนึ่งสัปดาห์
รอยช้ำ มีรอยช้ำเล็กน้อยจากการที่หลอดเลือดของเนื้อเยื่อเสียหายโดยเกิดขึ้นในบางครั้งและหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังการรักษา
อาการเจ็บปวด คนไข้อาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะระหว่างขั้นตอนการรักษาในขณะที่ฉายพลังคลื่นเสียงหลังการรักษาอาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะ แต่จะหายภายใน 2 ชั่วโมงถึง 2วัน อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการกดเจ็บเมื่อสัมผัสและจะหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังการรักษา

การดูแลหลังทำ HIFU

สามารถแต่งหน้าและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ในบางรายอาจมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย แต่จะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพักฟื้นผิว เพราะไม่มีการทำลายชั้นผิว และผิวหน้าที่ได้รับการฟื้นฟูจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำ Treatment หรือ Laser อื่นๆได้ภายในระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยเน้นทรีตเมนท์ที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว หรือตามคำแนะนำของแพทย์

ผลลัพธ์ของการรักษา
1.เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังการรักษา แนวคิ้วและหางตายกขึ้น กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
2.ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องมีการกระตุ้นซ้ำในระยะเวลา 1-3 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
3.ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 6 เดือน เนื่องจากจะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างผิวจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ (Collagen Remodeling) และยาวนานกว่า 1-2 ปี

Facebook: https://bit.ly/3x49sGc
Instagram: https://bit.ly/2UWyE4q

ยกกระชับผิวหน้าด้วย อัลเทอราปี (Ultherapy)

อัลเทอราพี (Ultherapy) คืออะไร?

คำจำกัดความ อัลเทอราพี (Ultherapy) คือ นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าไม่ให้หย่อนคล้อยด้วยคลื่น ultrasound พลังงานสูงที่มีชื่อว่า MFU-V (Microfocus Ultherasound with Visualization) โดยการส่งพลังงานเข้าชั้นผิวหนังในระดับที่ลึกถึงชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อ เป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ศัลยกรรมใช้เพื่อผ่าตัดกระชับใบหน้า และคลื่นเสียงนี้จะลงไปอย่างสม่ำเสมอเป็นจุดเล็ก ๆ ทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร และเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ กระชับ เต่งตึง โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอหรือนอนพักฟื้นใด ๆ 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ลักษณะผิวหนังแดง (ผื่นแดง) บริเวณที่รักษาอาจมีลักษณะผิวหนังแดงชัดเจนทันทีหลังการรักษาแต่จะหายภายในสองสามชั่วโมงหลังการรักษา
อาการบวมน้ำ (การบวม) บริเวณที่รักษาอาจมีลักษณะบวมน้ำเล็กน้อยชัดเจนทันทีหลังการรักษา แต่จะหายภายใน 3 ถึง 72 ชั่วโมงหลังการรักษา
รอยยาวบนผิวหนัง บริเวณที่รักษาอาจมีรอยบวมแดงเป็นเส้นตรงที่สามารถมองเห็นได้หลังการรักษาโดยจะหายภายในหนึ่งสัปดาห์ มีรอยช้ำเล็กน้อยจากการที่หลอดเลือดของเนื้อเยื่อเสียหายโดยเกิดขึ้นในบางครั้งและหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังการรักษา
อาการเจ็บปวด คนไข้อาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะระหว่างขั้นตอนการรักษาในขณะที่ฉายพลังคลื่นเสียงหลังการรักษาอาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะ แต่จะหายภายใน 2 ชั่วโมงถึง 2 วัน อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการกดเจ็บเมื่อสัมผัสและจะหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์ หลังการรักษา

ผลต่อระบบประสาท
1.อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่ช่วงขณะหลังการรักษาเนื่องจากประสาทสั่งการอักเสบ โดยจะหายภายใน 2 ถึง 6 สัปดาห์ หลังการักษา
2.อาจมีอาการชาชั่วขณะหลังการรักษาเนื่องจากประสาทรับความรู้สึกอักเสบ โดยจะหายภายใน สองถึงหกสัปดาห์ หลังการรักษา
3.อาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะมีอาการชาและ/หรืออาการเป็นเหน็บ โดยจะหายภายใน 2 ถึง 6 สัปดาห์หลังการรักษา
4.ไม่มีรายงานว่าทำให้เกิดการบาดเจ็บถาวรกับเส้นประสาทใบหน้า แผลไหม้/แผลเป็น เป็นไปได้ที่อาจเป็นรอยไหม้ โดยอาจส่งผลหรือไม่ส่งผลให้เกิดแผลเป็น แผลเป็นบางที่อาจตอบสนองต่อการรักษาทางการแพทย์และหายเป็นปกติได้

5.อาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น การสูญเสียน้ำ/โขมัน โรคทางระบบประสาท อาการชา ไมเกรน ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน อัมพาต ผิวห้อย/เหี่ยวไม่เท่ากัน ผื่นแดง ผื่นลมพิษ คัน แผลพุพอง สีผิวเปลี่ยน และสีผิวเข้มขึ้น